วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2560

สื่อการสอนสำหรับเด็กปฐมวัย

สื่อการสอนสำหรับเด็กปฐมวัย



อุปกรณ์
1.กระดาษแข็ง
2.ตะเกียบ
3.กาว
4.กรรไกร
5. สีน้ำหรือสีอคิลิก
6.ปากกา
7.เทปกาว กาวสองหน้า 
8.แผ่นเคลือบพลาสติก

วิธีการทำ 
1.นำกระดาษแข็งมาตัดเป็นสีเหลี่ยมชิ้นเล็กๆเพื่อใช้ทำเป็นตัวสัญลักษณ์และตัวเลข
2.นำกระดาษที่ตัดเสร็จแล้วมาวาดสัญลักษณ์กับตัวเลขและเคลือบด้วยแผ่นเคลือบพลาสติก
3.นำตะเกียบมาทาสี4สีตามในภาพและรอให้แห้ง
4.นำกระดาษมาตัดและประกอบกัน ทำเป็นกล่องสำหรับเก็บสื่อตามภาพ
5.นำสื่อไปทดลองใช้จริง

พัฒนาการที่เด็กจะได้
1.เด็กจะได้เรียนรู้เรื่องการนับจำนวน การบอกจำนวนและการแทนค่าจำนวน
2.เด็กเรียนรู้เรื่องการแยกสี
3.เด็กๆได้เรียนรู้เรื่องการคำนวณตัวเลขแบบง่ายๆผ่านสื่อ

สรุปบทความ

สรุปบทความ

บทความน่าสนใจ จากการนำเสนอของ นางสาวณัชชา เศวตทวี

เรื่อง การสอนทักษะพื้นฐานทางคณิตศาสตร์จากวัสดุธรรมชาติ

             การเรียนรู้ทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ซึ่งเด็กจะได้เรียนรู้จากการทำกิจกรรม และสะสมเป็นประสบการณ์ ครูสามารถจัดประสบการณ์ให้กับเด็กด้วยการใช้วัสดุธรรมชาติได้ เช่น การนำใบไม้บริเวณรอบโรงเรียนมานับจำนวน หรือนำกิ่งไม้มาวัดความสั้น-ความยาว เป็นต้น

             นอกจากจะนำวัสดุจากธรรมชาติมาสอนทักษะทางคณิตศาสตร์ได้แล้ว นำไปใช้ในกิจกรรมศิลปะสร้างสรรค์แล้วบูรณาการทางคณิตศาสตร์ก็ย่อมทำได้ จะเห็นได้ว่าคณิตศาสตร์สอดแทรกอยู่ในชีวิตประจำวันเสมอ ไม่จำเป็นที่จะต้องเรียนอยู่แต่ในห้องเรียน อีกทั้งการนำวัสดุธรรมชาติมาใช้ได้สอนเด็กเกี่ยวกับอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วย






สรุปตัวอย่างการสอน

สรุปตัวอย่างการสอน

ตัวอย่างการสอน เรื่อง การเรียนรู้ด้านคณิตศาสตร์(เรียนรู้การนับจำนวน)
นักเรียนชั้นอนุบาล1/1 โรงเรียนอนุบาลทองขาว อ.เมือง จ.ยโสธร

จากคลิปวีดีโอ คุณครูผู้สอนจะมีการร้องเพลงเพื่อเป็นการเก็บเด็กที่กำลังพูดคุยกันวุ่นวายก่อนทำการเรียนการสอนในวันนี้ เรื่องที่จะเรียนในวันนี้คือเรื่อง การนับจำนวน คุณครูมีสื่อ "แม่ไก่ออกไข่"มาใช้ในการทำกิจกรรมในวันนี้ เพื่อให้เด็กๆได้เรียนรู้เรื่องการนับจำนวน การบอกจำนวน และการแทนค่าจำนวน โดยในการทำกิจกรรม คุณครูจะให้เด็กๆสลับกันออกมาเป็นคนนับจำนวนไข่ไก่ในตะกร้า และให้เพื่อนคนอื่นๆออกเสียงนับจำนวนไข่ไก่ตาม ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดีมากเพราะจะเป็นการสร้างให้เด็กๆรู้จักการเป็นผู้นำ ผู้ตาม ทำให้เด็กๆได้มีโอกาสแสดงออกทางความคิด ความสามารถได้อย่างเต็มที่และเสมอภาคกัน จากคลิปวีดีโอตัวอย่างการสอนคลิปนี้จะเห็นได้ว่า กิจกรรมที่คุณครูเลือกใช้ มีการใช้สื่อที่น่าสนใจ ดึงดูดความสนใจของเด็กๆและทำให้กิจกรรมทางคณิตศาสตร์กลายเป็นเรื่องสนุกและไม่น่าเบื่อ

ที่มา https://youtu.be/NULYA9N3ysU


สรุปงานวิจัย

 สรุปงานวิจัย
เรื่อง การเปรียบเทียบความพร้อมทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัยที่จัดประสบการณ์โดยใช้เกมส์การศึกษาและเพลง กับ การจัดประสบการณ์ตามคู่มือครู งานวิทยานิพนธ์โดย นางสุธีรา ท้าวเวชสุวรรณ บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยศิลปากร

ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
จากการศึกษาและสัมภาษณ์ครูผู้สอนในชั้นอนุบาลของโรงเรียนตัวอย่างนั้น ได้พบปัญหาในเรื่อง เด็กปฐมวัยมีความพร้อมทางด้านคณิตศาสตร์ในเรื่อง การนับสิ่งต่างๆ การเปรียบเทียบ การนับเพิ่ม-ลดจำนวน อยู่ในระดับต่ำ ควรที่จะได้รับการพัฒนาเพื่อเป็นพื้นฐานในการเรียนชั้นต่อไป โดยการพัฒนาเด็กปฐมวัยนั้นควรยึดจากพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2544 มาตรา22 ที่กำหนดแนวทางในการจัดการศึกษาไว้ว่า การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้และ ถือว่าผู้เรียนสำคัญที่สุด ฉะนั้นครูผู้สอนและผู้จัดการศึกษาจะต้องเปลี่ยนแปลง
  บทบาท จากการเป็นผู้ชี้นำความรู้ไปเป็นผู้ช่วยเหลือ ส่งเสริม และสนับสนุนผู้เรียนในการแสวงหาความรู้จากสื่อ แหล่งการเรียนรู้ต่างๆและให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ผู้เรียน เพื่อนำความรู้ไปพัฒนาตนเองโดยในงานวิจัยชิ้นนี้จะใช้การการจัดประสบการณ์โดยการใช้เกมส์การศึกษาและเพลงมาเป็นการพัฒนาเด็กปฐมวัย โดยการจัดประสบการณ์โดยการใช้เกมส์การศึกษาและเพลง จะเป็นการเรียนรู้โดยใช้เพลง เกมส์เกี่ยวกับคณิตศาสตร์มาใช้ เพื่อกระตุ้นให้เด็กเกิดความสนุกสนาน โดยการจัดประสบการณ์แบบนี้จะช่วยพัฒนาเด็กได้ทั้งแบบรายบุคคลและกลุ่ม

วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1.เพื่อเปรียบเทียบความพร้อมทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ที่จัดประสบการณ์โดยใช้เกมส์การศึกษาและเพลง กับ การจัดประสบการณ์ตามคู่มือครู
2.เพื่อศึกษาความคิดเห็นของเด็กปฐมวัย ที่มีต่อการจัดประสบการณ์โดยใช้เกมส์การศึกษาและเพลง กับ การจัดประสบการณ์ตามคู่มือครู

ขอบเขตของการวิจัย
ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง
1.ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ ได้แก่
นักเรียนชั้นอนุบาล2 ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา2547 โรงเรียนอนุบาลบาลกาญจนบุรี สังกัดเขตพื้นที่การศึกษาเขต1 จากนักเรียน6ห้องเรียน จำนวน180คน
2.กลุ่มตัวอย่าง ได้แก่

นักเรียนชั้นอนุบาล2 ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา2547 โรงเรียนอนุบาลบาลกาญจนบุรี จำนวน2ห้องเรียน จำนวน60คน ซึ้งได้จากการสุ่มตัวอย่างง่ายโดยใส่หมายเลขห้องเรียนทั้ง6ห้องได้แก่ อนุบาล2/1-2/6 แล้วจับฉลากขึ้นมาจำนวน2ห้องเรียน ได้แก่ ห้องอนุบาล2/4เป็นห้องทดลอง และห้องอนุบาล2/6เป็นห้องควบคุม     


ตัวแปรที่ศึกษา

ตัวแปรอิสระ ได้แก่
1.การจัดประสบการณ์โดยใช้เกมส์การศึกษาและเพลง
2.การจัดประสบการณ์ตามคู่มือครู
ตัวแปรตาม ได้แก่
1.ความพร้อมทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย ประกอบด้วย
1.1การนับสิ่งต่างๆ เช่น การนับ1-10
1.2การจับคู่หนึ่งต่อหนึ่ง เช่น การจับคู่ภาพกับจำนวน
1.3การเปรียบเทียบจำนวนมากกว่า น้อยกว่า เท่ากับ เช่น การเปรียบเทียบจำนวนกับจำนวน หรือเปรียบเทียบจำนวนกับภาพ

1.4การนับจำนวนเพิ่ม-ลด เช่น การบวกภาพ การลดภาพ
2.ความคิดเห็นของเด็กปฐมวัยที่มีต่อการจัดประสบการณ์โดยใช้เกมส์การศึกษาและเพลง และการจัดประสบการณ์ตามคู่มือครู

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย
เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ประกอบด้วย
1.แผนการจัดประสบการณ์โดยเกมส์การศึกษาและเพลงโดยครูเป็นผู้สร้างขึ้น จำนวน20แผน เพลงคณิตศาสตร์8เพลง เวลาที่ใช้จัดประสบการณ์20คาบ
2.แผนการจัดประสบการณ์ตามคู่มือครู จำนวน20แผน เกมส์การศึกษา20เกมส์ เวลาที่ใช้จัดประสบการณ์20คาบ
3.แบบประเมิณความพร้อมทางคณิตศาสตร์จำนวน20ข้อ เรื่อง1.การนับสิ่งต่างๆ 2.การจับคู่หนึ่งต่อหนึ่ง 3.การเปรียบเทียบจำนวนมากกว่า น้อยกว่า เท่ากับ 4.การนับจำนวนที่เพิ่มขึ้นหรือน้อยลง ตามหน่วยการเรียน4หน่วย คือ หน่วยผลไม้น่ากิน หน่วยผักสดสะอาด หน่วยสัตว์น่าเลี้ยง หน่วยผีเสื้อแสนสวยและครอบคลุมเนื้อหาที่กำหนด ก่อนการจัดประสบการณ์และหลังการจัดประสบการณ์
4.แบบสัมภาษณ์ความคิดเห็นที่มีต่อการจัดประสบการณ์โดยใช้เกมส์การศึกษาและเพลงกับการจัดประสบการณ์ตามคู่มือครู
(แบบให้เลือกใบหน้า เกี่ยวกับบรรยากาศ/ความพึงพอใจ/ประโยชน์ที่ได้รับโดยการสัมภาษณ์ นักเรียน)

สรุปผลการวิจัย
จากกการทำวิจัยสามารถสรุปผลการวิจัย ได้ดังนี้
1.หลังการจัดประสบการณ์ของเด็กปฐมวัย กลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมมีคะแนนเฉลี่ยความพร้อมทางคณิตศาสตร์แตกต่างกันอย่างมีนนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับนัยสำคัญ0.01 โดยความพร้อมทางคณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย กลุ่มทดลองที่จัดประสบการณ์โดยใช้เกมส์การศึกษาและเพลงสูงกว่ากลุ่มควบคุมที่จัดประสบการณ์ตามคู่มือครู โดยเรื่องการจับคู่หนึ่งต่อหนึ่ง ได้คะแนนเฉลี่ยสูงสุด ส่วนเรื่องการนับจำนวนเพิ่ม-ลดได้คะแนนเฉลี่ยต่ำที่สุด
2.ความคิดเห็นของเด็กปฐมวัยชั้นอนุบาลปีที่2 ที่มีต่อการจัดประสบการณ์ทั้งสองแบบ พบว่า เด็กกลุ่มทดลองที่จัดประสบการณ์โดยใช้เกมส์การศึกษาและเพลงโดยภาพรวมมีระดับความพอใจมากในทุกด้าน โดยเรียงลำดับดังนี้
ลำดับที่1ด้านการจัดบรรยากาศ คิดเป็นร้อยละ100.00 ลำดับที่2ด้านการจัดประสบการณ์ คิดเป็นร้อยละ96.00 ลำดับที่3ด้านประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดประสบการณ์ คิดเป็นร้อยละ95.5 และพบว่า เด็กกลุ่มควบคุมที่จัดประสบการณ์ตามคู่มือครู มีความพึงพอใจ เรียงลำดับดังนี้
ลำดับที่1ด้านการจัดบรรยากาศ คิดเป็นร้อยละ96.67 ลำดับที่2ด้านประโยชน์ที่ได้รับจากการจัดประสบการณ์ คิดเป็นร้อยละ92.78 ลำดับที่3ด้านกิจกรรมในการจัดประสบการณ์ คิดเป็นร้อยละ91.67 โดยด้านบรรยากาศ เด็กปฐมวัยวัยมีความพึงพอใจสูงเท่ากันทั้ง2กลุ่ม

ข้อเสนอแนะเพื่อการนำไปใช้
1.จากการวิจัยพบว่า การจัดประสบการณ์โดยใช้เกมส์กาศึกษาและเพลง ทำให้เด็กมีความพร้อมทางคณิตศาสตร์สูงกว่าการจัดประสบการณ์ตามคู่มือครู และมีความคิดเห็นระดับพอใจมากต่อการจัดประสบการณ์โดยใช้เกมส์การศึกษาและเพลง ดังนั้นสถานศึกษาควยเผยแพร่ แนะนำให้ครูผู้สอน มีการจัดประสบการณ์โดยใช้เกมส์การศึกษาและเพลง
2.จากการวิจัย พบว่า เกมส์การศึกษาและเพลงที่เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ ทำให้เด็กๆสนุกสนานและมีความสุข กระตือรือร้นในการร่วมกิจกรรม ดังนั้นครูผู้สอนจึงควรนำเกมส์การศึกษาและเพลงที่เกี่ยวกับคณิตศาสตร์ ไปใช้ในการกระตุ้นให้เด็กสนใจที่จะเรียนรู้และจัดกิจกรรมเพื่อเตรียมความพร้อมในการเรียนวิชหรือเนื้อหาสาระอื่นๆ